ว่ากันด้วยเรื่อง แนวกลิ่นของน้ำหอม ...

7 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

โดยทั่วไปแล้วน้ำหอมมักจะถูกแบ่งกลุ่มตามลักษณะของกลิ่น เพื่อให้ง่ายต่อการคาดหมายถึงกลิ่นหอมที่ใกล้เคียงกันในกลุ่ม ส่วนจะใช้เกณฑ์ใดในการแบ่งนั้นไม่มีหลักตายตัว เช่น อาจใช้บุคลิกหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อได้กลิ่นนั้นในการแบ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมกันแพร่หลายตัวอย่าง เช่น ....

1. Floral เป็นกลิ่นน้ำหอมที่มีมากชนิดที่สุด ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากดอกไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งอาจจะมีการแบ่งกลุ่มเป็น floral, floral-sweet, floral-fresh, floral fruity-fresh เหมาะสำหรับใช้ตอนกลางวัน หรือ ในฤดูร้อน

2. Fresh น้ำหอมที่มีกลิ่นแนวสดชื่น มักจะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกชื่นเย็นปลอดโปร่ง และสบายใจ เมื่อได้กลิ่นแนวนี้จากใครมักจะชวนให้เกิดความรู้สึกว่าเขาเป็นหนุ่มที่แจ่มใสร่าเริง และค่อนข้างเป็นกันเอง น้ำหอมกลุ่มนี้มักจะมีส่วนผสมหลักเป็นกลิ่นแบบใบไม้ใบหญ้า กลิ่นแบบผลไม้ตระกูลส้ม รวมทั้งกลิ่นดอกไม้จางๆ เล็กน้อย (Forest, Citrus & Floral)

3 . Classic น้ำหอมที่มีกลิ่นแนวคลาสสิก มักจะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกลึกซึ้งอบอุ่น และทำให้เกิดความรู้สึกว่าหนุ่มที่ใช้กลิ่นแนวนี้จะเป็นหนุ่มที่ค่อนข้าง ขรึม สุภาพและมีความมั่นคงสูง น้ำหอมกลุ่มนี้มักจะมีส่วนผสมของกลิ่นมัสก์ กลิ่นแบบเปลือกไม้ และกลิ่นแบบเครื่องเทศเล็กน้อยด้วย (Musky, Woody & Spicy)

4. Romantic น้ำหอมที่มีกลิ่นแนวโรแมนติก มักจะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกลึกซึ้งและอบอุ่นเช่นเดียวกันกับแนวคลาสสิกแต่จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าหนุ่มที่ใช้กลิ่นแนวนี้ค่อนข้างจะเป็นหนุ่มที่มีความนุ่มนวลและอ่อนหวานมากกว่า น้ำหอมกลุ่มนี้มักจะมีส่วนผสมหลักเป็นกลิ่น แบบใบไม้ใบหญ้า กลิ่นดอกไม้จางๆ หรือกลิ่นมัสก์เล็กน้อยด้วย (Forest, Floral & Musky)

5. Sport น้ำหอมที่มีกลิ่นแนวกระฉับกระเฉง มักจะมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกคึกคัก ตื่นตัว หนุ่มที่ใช้กลิ่นนี้ดูเหมือนจะเป็นหนุ่มที่คล่องแคล่วปราดเปรียว และออกจะทันสมัยสักหน่อย น้ำหอมกลุ่มนี้มักจะมีส่วนผสมของกลิ่นแบบผลไม้ตระกูลส้ม กลิ่นแบบทะเล หรือกลิ่นแบบเครื่องเทศด้วยนิดหน่อย (Citrus, Ocean & Spicy)

6. Fruity การใช้ผลไม้เป็นส่วนประกอบของน้ำหอมนั้น วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อเพิ่มความหอมหวานให้น้ำหอม รวมถึงเพิ่มควมแรงของกลิ่นด้วย โดยปกตินิยมใช้เป็นกลิ่นสัมผัสแรก หรือที่เรียกว่า Top Notes นั่นเอง ข้อแนะนำในการใช้งาน น้ำหอมแนวนี้ให้ความรู้สึก สดชื่น กระฉับกระเฉง ดูกระตืรือร้น มีความร่าเริง เบิกบาน น่าคบหา

7. Oriental/Amber กลิ่นโทนนี้จะเป็นกลิ่นหอมค่อนข้างแรงจากกลิ่นของเครื่องเทศ เป็นกลิ่นที่ติดทน ติดนาน ผลิตได้จาก Musk, Sandal Wood และวนิลา เป็นต้น ข้อแนะนำในการใช้งาน กลิ่นโทนนี้ควรใช้ในช่วงเย็น หรือหากเป็นช่วงหน้าร้อน ควรใช้ตอนกลางวัน

8. Aldehydic/Modern เป็นน้ำหอมที่มักใช้ส่วนประกอบที่มีความเป็นไม้และแป้ง เมื่อใช้แล้วจะให้ความรู้สึก ทันสมัย ได้จากการสังเคราะห์ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ Aldehydic Floral และ Aldehydic Floral Woody Powderly ข้อแนะนำในการใช้งาน น้ำหอมแนวนี้มักเป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิง ให้ความรู้สึก มีความเรียบร้อย ดูเป็นผู้ดี ไร้มารยา

9. Chypre น้ำหอมโทนนี้จะติดนานทนนาน ส่วนใหญ่เป็นน้ำหอมสำหรับสุภาพสตรี นิยมใช้ในช่วงฤดูหนาว สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แบ่งเป็น 3 ประเภทได้แก่ Fresh Mossy Aldehydic, Floral Aldehydic Animalic และ Mossy Furity

10. Fougere น้ำหอมแนวกลิ่นสดชื่นๆ จากลิ่นของสมุนไพรหอมต่างๆ เช่น ดอก ลาเวนเดอร์ เป็นต้น ข้อแนะนำในการใช้งาน กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึก เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว สุขุมนุ่มลึก และมีความมั่นใจในตัวเอง

11. Tobacco/Leather น้ำหอมโทนนี้จะเป็นน้ำหอมกลิ่นโทน Woody และเครื่องเทศ ข้อแนะนำในการใช้งาน เป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับสุภาพบุรุษ

Tip: หากไม่ใช้ปริมาณมากเกินไป น้ำหอมหนึ่งขวดจะอยู่กับเราไปนานหลายเดือนกว่าจะหมด เพราะฉะนั้นควรเก็บรักษาให้ดี กลิ่นน้ำหอมที่เก็บเอาไว้สามารถจะผิดเพี้ยนไปหรือเสื่อมสภาพได้จากความร้อนและแสงแดด ดังนั้นเราควรที่จะเก็บขวดนํ้าหอมไว้ในสถานที่ที่มีความมืดและไม่โดนความร้อน